"พ่อจ๋า...พ่อจ๋า...วันนี้น้องจะออกมาแล้วใช่ไหมจ๊ะ ?" ผมถาม
"อืม!! ยังหรอกลูก...น้องยังไม่ออกมาวันนี้หรอก" พ่อตอบโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองผม...แน่ล่ะ...เพราะตอนนี้พ่อกำลังง่วนอยู่กับการซักผ้ากองโตที่อยู่ในกะละมังแทนแม่
"แล้ววันพรุ่งนี้ล่ะจ๊ะ น้องจะออกมาให้นับได้อุ้มหรือเปล่า ?" ผมถามอีก
คราวนี้พ่อละสายตาจากงาน(ที่ไม่ประจำ)ขึ้นมองผมก่อนจะส่งยิ้มให้...ผมรู้ว่าพ่อไม่เคยรำคาญลูกของตัวเองและพ่อก็ให้ความสำคัญกับผมเสมอ
"นับเอ๊ย!! อีกหกเดือนนะลูก กว่าน้องจะออกมาให้นับอุ้มได้...น้องต้องใช้ชีวิตอยู่ในท้องของแม่ซักระยะหนึ่งก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อออกมาแล้วน้องจะไม่โดนนับรังแก" พ่อว่าก่อนจะก้มหน้าก้มตาซักผ้าต่อไป
ส่วนผม...คงได้แต่นั่งเท้าคางรอคอยเวลาที่จะได้เห็นสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่ตัวเองต้องเรียกเขาหรือเธอว่า 'น้อง' ด้วยความตื่นเต้นและใจจดใจจ่อ
ก่อนหน้านั้น...
ผมเห็นแม่ซุบซิบอะไรบางอย่างกับพ่อ แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะกันคิกคัก...ผมไม่ยอมหรอกที่จะให้ครอบครัวของเราต้องมีความลับระหว่างกัน โดยเฉพาะความลับที่พ่อกับแม่รู้กันเพียงสองคน
"พ่อกับแม่คุยอะไรกันจ๊ะ ?" ผมถาม ขณะที่พยายามแทรกตัวเองขึ้นไปอยู่ระหว่างกลางของพ่อกับแม่
"ไม่มีอะไรหรอกลูก...แค่แม่เขามีเรื่องดี ๆ มาบอกกับพ่อก็เท่านั้นเอง" พ่อบอกกับผม
"เรื่องอะไร ?...ทำไมไม่ให้นับรู้ด้วย...หรือว่าแม่แอบซื้อขนมมางุบงิบกินกับพ่อสองคน" วูบหนึ่งผมรู้สึกว่าตัวเองนี่ก็มีไหวพริบไม่ใช่เล่น อย่างนี้อีกหน่อยคงเป็นนักสืบได้
"ไม่ใช่หรอกลูก(แม่หัวเราะ) แม่รักนับจะตายไป...ถ้ามีของกินแม่ก็ต้องแบ่งให้นับกินด้วยสิ...แม่แค่กำลังบอกพ่อเขาว่าแม่กำลังจะมีน้องให้นับอุ้มแล้ว" แม่พูดพร้อมกับทำหน้าแดง...แม่ชอบทำหน้าแดงแบบนี้เสมอล่ะ!!
'น้อง' เด็กผู้ชายหรืออาจจะเป็นเด็กผู้หญิงก็ได้ สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในท้องของแม่รอวันเวลาที่จะออกมาดูโลกภายนอกหลังจากที่เขาหรือเธอแน่ใจแล้วว่าจะไม่โดนใครแกล้ง.....
ผมเองยังไม่เคยมีน้อง ผมจึงไม่รู้ว่าเขาหรือเธอที่จะออกมาเป็นน้องของผมนั้นจะมีหน้าเป็นเช่นไร...เขาหรือเธอจะเหมือนผมหรือเปล่านะ ?...มันคงตลกน่าดูที่จะมีใครก็ตามมาคอยเรียกผมว่า 'พี่' และเดินตามเพื่อเล่นกับผมตลอดทั้งวัน
ผมรีบนำข่าวดีนี้ไปเล่าให้บรรดาเพื่อน ๆ ของเล่นได้ฟัง...
"โอว...นั่นเป็นข่าวดีที่สุดเลยใช่ไหมพวกเรา"
ตุ๊กตาทหารขาเดียวพูด...หลายคนคงจำมันได้...มันเป็นตุ๊กตาทหารที่ขาขาดไปข้างหนึ่งแล้วถูกแทนที่ขาข้างนั้นด้วยไม้ไอติม...แม้มันจะเป็นของเล่นที่ขี้หงุดหงิดและชอบประจบผมอยู่บ่อย ๆ (โดยเฉพาะต่อหน้าของเล่นชิ้นอื่น ๆ ) แต่ผมเองก็ชอบมัน...ของเล่นชิ้นอื่นก็คงเหมือนกัน
"ใช่ ๆ เป็นข่าวดีทีเดียวล่ะพ่อหนูน้อย...ต่อไปนี้เธอก็จะมีเพื่อนเล่นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนแล้วสิ" ตุ๊กตาลิงตีกลองพูดขึ้นบ้าง
"พวกเราก็จะมีเจ้านายที่น่ารักเพิ่มขึ้นมาด้วยอีกหนึ่งคนเหมือนกัน" รถบรรทุกพลาสติกหันไปบอกกับของเล่นชิ้นอื่น ๆ
"เฮ้ ๆ พูดดี ๆ หน่อยอ้ายพลาสติกมีล้อ...ถึงฉันจะดีใจที่พ่อหนูน้อยจะมีน้อง แต่ฉันก็ไม่ใช่ของเล่นสองเจ้าบ่าวสองนายหรอกนะ ฉันไม่ยอมให้ใครมาเล่นกับฉันยกเว้นพ่อหนูน้อยคนเดียว" ตุ๊กตาทหารว่า...ที่จริงมันเป็นไม้เบื่อไม้เมากับรถบรรทุกพลาสติกมานานแล้ว ดังนั้นทุกเรื่องที่รถบรรทุกพลาสติกคิด ตุ๊กตาทหารก็จะคิดไปในทางตรงข้าม
"ฉันว่าแกนั่นแหละที่ต้องหุบปาก ก่อนที่จะต้องใช้ไม้ไอติมมาทำขาอีกข้าง...เมื่อพ่อหนูน้อยเป็นพี่ เขาก็ต้องเสียสละอะไรหลาย ๆ อย่างให้น้องอยู่แล้ว...รวมถึงของเล่นอย่างพวกเราด้วย" รถบรรทุกพลาสติกพูด พลางไสตัวเองเข้าไปใกล้คู่ปรับที่ยืนจังก้ากระชับปืนที่ติดมีดดาบอยู่ที่ปลายกระบอกด้วยท่าทางเตรียมพร้อม
ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายผมรีบจับของเล่นทั้งสองชิ้นแยกออกจากกัน แล้วตั้งคำถามขึ้นมาว่า
"เสียสละ...ทำไมฉันต้องเสียสละด้วยเล่า ?"
บรรดาของเล่นต่างหยุดนิ่งและตกอยู่ในความเงียบไปชั่วขณะ มีเพียงรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่แอบอยู่มุมปากของตุ๊กตาทหาร...
ผู้ที่มาตอบคำถามของผมไม่ใช้รถบรรทุกพลาสติก...แต่เป็นม้าโยกไม้...ช่วงหลัง ๆ มานี่ผมสังเกตเห็นม้าโยกไม้ดูเก่าและโทรมไปมากแล้ว มันโยกตัวเองสองสามทีแล้วพูดกับผมว่า
"เมื่อเธอกำลังจะมีน้องนั่นก็หมายถึงเธอกำลังจะเป็นพี่ด้วยเช่นกัน...และเมื่อเธอเป็นพี่นั่นย่อมแสดงว่าเธอกำลังจะเติบโตและอาจจะไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ อีกต่อไป แน่นอนว่าเมื่อเธอโตขึ้นความรับผิดชอบอื่น ๆ ก็จะมีเข้ามานอกเหนือจากการเล่นสนุกเพียงอย่างเดียว...ใช่ล่ะ...มันรวมถึงเรื่องที่ต้องคอยดูแลน้องตัวเล็ก ๆ ของเธอด้วย..." ม้าโยกไม้หยุดพูดนิดหนึ่ง มันโยกตัวเองอีกครั้งจนเกิดเสียงดังอ๊อดแอ๊ดจากรอยต่อบางช่วง
"พ่อหนูน้อย...เธอเคยสังเกตเห็นไหมล่ะว่าพ่อแม่ของเธอยอมเสียสละความสุขหลายเรื่องที่ทั้งคู่ควรจะได้เพียงเพื่อให้เด็กตัวเล็ก ๆ อย่างเธอได้เล่นสนุกสนาน นั่นก็เพราะพวกเขาโตกว่าเธอใช่ไหมล่ะ ?...เธอเองก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องรู้จักเสียสละความสุขบางอย่างที่เคยมีให้กับน้องตัวเล็กที่กำลังจะออกมา" ม้าโยกไม้ว่า
"อืม!! ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย...ช่างแย่จริง ๆ...ถ้างั้นฉันก็ยินดีที่จะเสียสละอะไรก็ตามที่ตัวเองมีให้กับน้องของฉัน...ครึ่งนึงก่อนดีไหม ?...หรือว่าทั้งหมดดีเพราะฉันโตเป็นพี่แล้วนี่นา" ผมบอกกับบรรดาของเล่นของตัวเอง
ของเล่นทุกชิ้นพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยกับความคิดของผม ยกเว้นตุ๊กตาทหารขาเดียวที่ตอนนี้มันกำลังบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
"ท่าทางฉันคงต้องมีเจ้านายอีกคนที่อาจจะเล่นซนพอ ๆ กับพี่ชายหรือนี่"
"ก็ไม่แน่หรอกทหารเอ๋ย...บางทีพวกเราอาจจะเหลือเจ้านายเพียงคนเดียวเหมือนเดิมก็ได้ ถ้าหากพวกเราได้คนที่พร้อมจะเติบโตต่อไปในอนาคตเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน"
ม้าโยกไม้หันไปบอกกับตุ๊กตาทหาร แต่ดูเหมือนว่ามันจะทิ้งปริศนาอะไรบางอย่างเอาไว้เพียงแค่นั้น...ซึ่งผมเองก็ไม่ได้เอะใจ
แต่นั่นจะสำคัญอะไรเท่ากับการเฝ้ารอสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่ตัวเองต้องเรียกว่าน้องของผม.....
เกี่ยวกับเรื่อง :
ตอนที่ผมรู้ว่าตัวเองกำลังจะมีน้องนั้น ผมรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก ใครที่ไม่เคยมีน้องคงไม่รู้...แต่คำถามหนึ่งที่ตามมาก็คือ น้องจะมาแบ่งความสุขอะไรไปจากผมบ้าง ?
เรื่องเกี่ยวกับน้องของผม...จึงเป็นเรื่องจริง
คนที่อธิบายเรื่องของการเสียสละอะไรบางอย่างให้กับน้องที่กำลังจะเกิดมาเพราะว่าผมกำลังจะเป็นพี่นั้น ไม่ใช่ม้าโยกไม้...แต่เป็นพ่อของผมเอง
เรื่องของน้อง...ยังไม่จบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น