วันอาทิตย์ที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

๑๑.ศึกแมลงสาบ

คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในชีวิตของคนเราจะเกิดความกลัวในอะไรขึ้นมาสักเรื่องหนึ่ง...แต่ที่น่าแปลกก็คือ การพยายามเก็บงำความกลัวนั้นเอาไว้ในจิตใจ โดยไม่เปิดเผยออกมาให้ใครได้รับรู้...อาว์ !! มันช่างเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดเสียนี่กระไร...



ใครกลัวแมลงสาบกันบ้างเอ่ย ?...อ้าว!! ไม่กลัวกันเหรอ...แต่ผมกลัวครับ...กลัวแบบขยะแขยง...มากถึงมากที่สุด...อูยยยย !! นึกแล้วขนลุก

ผมเชื่อของผมว่า การที่คนเราจะกลัวอะไรนั้นมันต้องมีสาเหตุ มีที่มาที่ไป เมื่อกล้าบอกกับใคร ๆ ว่าตัวเองกลัวแมลงสาบ ผมย่อมต้องกล้าที่จะเล่าถึงสาเหตุแห่งความกลัวนั้น ๆ...เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นขณะที่ผมมีอายุได้เจ็ดขวบ...

คนที่อ่าน โลกใบเด็ก ของผมมาได้ระยะหนึ่งแล้ว คงพอจะทราบว่าบ้านที่ผมเคยอยู่เมื่อตอนเด็ก ๆ นั้น เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวมีห้องน้ำแยกออกจากมาตัวบ้าน ลองนึกภาพของกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าทรงสูงขนาดไม่ใหญ่ไม่โต(ประมาณพ่อแม่และผมสามารถเข้าไปยืนเบียดกันได้)มีประตูทางเข้าหนึ่งบาน พื้นห้องน้ำทำด้วยปูนซีเมนต์แบบหยาบ ๆ ยกสูงจากพื้นดินคืบกว่า ๆ ผนังและหลังคากรุด้วยสังกะสีเก่า ๆ ผุบ้างเป็นบางแผ่น ระหว่างผนังและหลังคาเปิดช่องว่างเอาไว้ให้ลมผ่านพอเย็นเพื่อระบายอากาศ...แม้ห้องน้ำหลังนี้จะไม่หรูหราฟู่ฟ่าประดับประดาด้วยโมเสดหรือหินอ่อน แต่ผมก็เห็นพ่อผิวปากร้องเพลงด้วยความสุขทุกครั้งที่เข้าไปอาบน้ำ

ในปีและวันที่เกิดเหตุนั้นอยู่ในช่วงของฤดูฝนและฝนก็กำลังทำหน้าที่ของมันไปเรื่อย ๆ น่าแปลกที่ฝนปีนี้มามากกว่าปีก่อน ๆ มันตกทุกวันราวกับฝนพันปี ตกตั้งแต่เช้าจรดเย็นบางวันก็ล่วงเลยไปถึงค่ำก็ยังพรำอยู่...บางที ฝนที่มากมายขนาดนั้นอาจเป็นการบอกถึงลางร้ายอะไรบางอย่างก็เป็นได้...อนิจจาช่างน่าสงสารที่เด็กน้อยอย่างผมไม่ได้ระแคะระคายอะไรเลย !!

ปริมาณจากน้ำฝนที่พาเหรดกันมาทำให้ท่อระบายน้ำในระแวกบ้านของผมทำงานไม่ทัน น้ำในท่อชักชวนกันเอ่อล้นออกมาเข้าท่วมถนนและที่พักอาศัยซึ่งอยู่ในย่านนั้นไม่เว้นแม้แต่บ้านของผม...นั่นนับเป็นเรื่องเลวร้ายเรื่องแรก...เรื่องเลวร้ายถัดมาก็คือ น้ำที่ล้นออกมาจากท่อนั้นได้พาเอา ฝูงแมลงสาบ นับสิบ...ไม่สิ...นับร้อย ออกมาด้วย

อืม ! แล้วตอนนั้นผมกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ ?

ผมก็กำลังทำกิจธุระส่วนตัวอยู่ในห้องน้ำหลังน้อยอยู่น่ะสิ...เขาว่าฝนจะตก ฟ้าจะร้อง คนปวดท้องจะเข้าห้องน้ำนี่มันห้ามกันยากเสียนี่กระไร

ในขณะที่ผม เด็กชายคำนับ วัยเจ็ดขวบนั่งผ่อนคลายสบายใจอยู่ในห้องน้ำ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นแมลงสาบตัวหนึ่งค่อย ๆ โผล่หน้าออกมาจากช่องว่างระหว่างรอยต่อของผนังและหลังคา ท่าทางของมันเหมือนจะมาสอดแนมหรือดูลาดเลาอะไรบางอย่าง สักครู่ผมก็ได้ยินเสียงมันตะโกนขึ้นมาว่า

"เฮ้พวกเรา...เรามีที่หนีน้ำแล้ว ในนี้ดูท่าทางจะปลอดภัย"

ได้ยินแค่นั้นผมก็เดาได้ทันทีว่า อ้ายแมลงสาบตัวนั้นคงกำลังตะโกนบอกเพื่อน ๆ ของมันซึ่งยังไม่แจ้งว่าจะมีจำนวนสักเท่าไหร่ให้พากันเข้ามายังห้องน้ำของผม...นี่มันเข้าข่ายบุกรุกกันเห็น ๆ

"นี่แมลงสาบ เธอกับพรรคพวกจะเข้ามาในที่ส่วนตัวของคนอื่นโดยที่เขาไม่อนุญาตไมใได้นะ" ผมบอก

แมลงสาบตัวนั้นคราง 'หึ' อยู่ในลำคอท่าทางโอหัง มันบินโฉบทิ้งตัวเองลงมาเกาะอยู่ที่ตุ่มน้ำมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าจนผมรู้สึกอาย(แน่ล่ะผมต้องอายแน่นอน เพราะผมทำธุระส่วนตัวอยู่นี่นา)

"ใครจะไปสน เธอก็ทำธุระของเธอไปสิพ่อหนูน้อย ส่วนฉันและเพื่อน ๆ จะอาศัยที่นี่เป็นที่หลบน้ำ...ไม่แน่นะ...ถ้าเสียงส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าชอบใจสถานที่แห่งนี้ พวกเราอาจใช้มันเป็นกองบัญชาการแห่งใหม่ก็ได้"

"พวกเธอนี่หน้าด้านจริง ๆ " ผมตะโกนเสียงดังใส่มันและเริ่มรู้สึกไม่พอใจโดยเฉพาะท่าทางที่ดูวางอำนาจเหมือนไม่เกรงกลัวผู้ใด

"เอาเลย คำพูดแค่นี้ไม่ทำให้ฉันเจ็บปวดหรอก ไม่งั้นพวกฉันจะอยู่บนโลกใบนี้มาเป็นล้าน ๆ ปีได้ไง...พวกเราเข้ามาเลย ที่นี่มีเด็กหน้าตาโง่ ๆ แค่คน..อุ๊บ !!"

ประโยคหลังของแมลงสาบนอกจากจะร้องเรียกบรรดาเพื่อน ๆ ของมันแล้ว มันคงกำลังจะบอกว่า 'ที่นี่มีเด็กหน้าตาโง่ ๆ แค่คนเดียว' แต่มันพูดไม่จบประโยคเพราะโดนผมเอาขันน้ำเคาะเข้าให้ มันกระเด็นตกจากตุ่มน้ำลงไป นอนนับดาวอยู่ที่พื้น...นี่ถ้าทำอะไรได้ถนัดกว่านี้ มันคงจะโดนผมตามไปเคาะซ้ำด้วยขันอีกสักที

"พวกเราอ้ายติ๊ดตี่โดนทำร้ายเว้ย !!" เป็นเสียงของแมลงสาบอีกตัวที่โผล่หน้าเข้ามา

"เร็วพวกเราช่วยกันขับไล่อ้ายเด็กไม่รักดีคนนี้ไปก่อน แล้วเข้ายึดพื้นที่เลย" เป็นเสียงของอ้ายติ๊ดตี่ที่เพิ่งจะหายจากอาการมึนตึ๊บด้วยพิษสงของขันน้ำ

สิ้นเสียงอ้ายติ๊ดตี่ ฝูงแมลงสาบจำนวนนับไม่ถ้วนต่างพากันกรูเข้ามาภายในห้องน้ำ บ้างบินฉวัดเฉวียนในอากาศ บ้างคลานอย่างเชื่องช้าเพราะตัวเปียก บ้างไต่ไปตามผนังสังกะสีของห้องน้ำด้วยความรวดเร็วเผลอแผลบเดียวขึ้นไปอยู่บนเพดานแล้วทิ้งตัวหล่นปุลงมา

บางตัว...ไม่ใช่สิ...หลายตัว ไต่ขึ้นมาบนขา ลำตัว และ...อืม...คำนับน้อย ของผม แม้จะเคยเจอหน้ากันมาบ้าง แต่นั่นมันไม่มากมายขนาดนี้ ผมได้แต่นั่งค้างอยู่ด้วยความ ช็อก

พอตั้งสติได้ผมพยายามปัดไอ้พวกที่ไต่อยู่ตามตัวออกและดิ้นรนต่อสู้สุดฤทธิ์...ต่อสู้เพื่อสิทธิ์อันชอบธรรม...ต่อสู้เพื่อห้องน้ำของผม...และต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด...แต่ผมกำลังจะเสียดินแดนเพราะฝูงแมลงสาบมากมายเหลือเกิน ที่สำคัญเวลามันอยู่รวมกันช่างน่าขยะแขยงกว่าที่คาดไว้หลายเท่านัก...ผมตัดสินใจสละห้องน้ำแล้วพยายามตีฝ่าวงล้อมออกไป

จำเป็นมั้ยสำหรับการทำความสะอาดในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนั้น...ตอบว่าไม่

จำเป็นมั้ยสำหรับการแต่งตัวให้เรียบร้อย...ก็ตอบอีกว่าไม่

ผมตลุยฝ่าฝูงแมลงสาบออกมาจากห้องน้ำ ไม่สนแม้แต่ร่มกันฝนที่แขวนเอาไว้ที่หน้าประตู ผมวิ่งฝ่าสายฝนเข้าบ้านทันที ปากก็ตะโกนเรียกแม่จ๋า..แม่จ๋า...ช่วยด้วย


หลังจากเหตุการณ์วันนั้นแล้ว ผมก็เป็นไข้ ไม่รู้ว่าเพราะตากฝนเข้าบ้านหรือฝูงแมลงสาบกันแน่...เท่าที่รู้ตั้งแต่นั้นมาแมลงสาบเป็นสิ่งมีชีวิตที่ผมกลัวมากถึงมากที่สุด จนทุกวันนี้ความรู้สึกนั้นก็ยังคงอยู่ และทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำไม่ว่าที่บ้านหรือที่ไหน ผมต้องแอบชำเลืองดูก่อนว่ามีพวกมันแอบซ่อนอยู่หรือเปล่า...ถ้ามี...อั้นเอาไว้หรือปล่อยให้มันระเบิดไปเลยดีกว่า...ดีกว่าอะไร...ดีกว่าต้องมาเป็นไข้แมลงสาบน่ะสิ !!


เกี่ยวกับเรื่อง :

เรื่องของฝูงแมลงสาบที่หนีน้ำเข้ามาในห้องน้ำของผมตอนฝนตก ในขณะที่ผมกำลังทำธุระส่วนตัวอยู่...เป็นเรื่องจริง

ดังนั้นเรื่องที่จำนวนของแมลงสาบทำให้ผมกลัวพวกมันตั้งแต่นั้นมาก็เป็นเรื่องจริง...แต่เรื่องโกหกก็คือ ผมไม่เคยสนทนาหรือต่อกรใด ๆ กับพวกมัน เพราะแค่เห็นหนวดของแมลงสาบผมก็เผ่นแล้วล่ะครับ

ไม่มีความคิดเห็น: